เป็นเครื่องวัดอัตราการไหลแบบต่อเนื่องโดยอาศัยการออกแบบทางกล ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนการวัดอัตราการไหลโดยใช้ปริมาตรเทียบกับเวลาในสมัยก่อน โดยลักษณะการทำงานของ Positive Displacement Flow Meter นั้น จะมีการทำงานในลักษณะของการเคลื่อนที่แบบเป็นจังหวะ ซึ่งในแต่ละจังหวะจะมีอัตราการไหลแบบปริมาตรที่มีค่าแน่นอน ทำให้เกิดสัญญาณพัลส์ เพื่อใช้ในการนับปริมาตรของการไหล
เป็นเครื่องวัดอัตราการไหลแบบทางอ้อม โดยใช้การคำนวนปริมาตรจากภาชนะที่ถูกลำเรียงผ่านกังหัน เป็นหลัก
เป็นเครื่องวัดอัตราการไหลที่ใช้หลักการแกว่งของตัวของชิ้นส่วนภายใน ซึ่งเกิดจากการไหลของของไหล และเอาสัญญาณที่เกิดจากการแกว่งเหล่านี้ไปใช้งาน เช่น Vortex flow meter, Vortex precession และ Fluidic flow meters
เป็นเครื่องวัดอัตราการไหลที่ใช้หลักการของการวัดค่าแรงดันตกคร่อม โดยใช้ Equation of continuity และใช้สมการ Bernoulli’s equation เพื่อนำมาคำนวณหาค่าอัตราการไหล
มีอีก 2 ชื่อเรียกว่า Magflows และ Magmeters ทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดอัตราการไหลที่มีใช้กันมานานมากกว่า 40 ปี โดยเริ่มต้นใช้งานมาตั้งแต่ Modern meters ตามมาด้วย Exhibit no moving parts จนกระทั่งเป็นแบบ Zero pressure drop โดย Magflows หรือ EM Flow meter จะอาศัยหลักการทำงานตามกฎของฟาราเดย์ (Faraday’s law) ซึ่งเมื่อมีตัวนำวิ่งผ่านหรือตัดผ่านสนามแม่เหล็ก จะทำให้เกิดแรงดันตกคร่อมซึ่งแปรเปลี่ยนตามความเร็วของตัวนำนั้น ๆ ซึ่งในที่นี้หมายถึงของไหลนั่นเอง
เป็นเครื่องมือวัดอัตราการไหลที่อาศัยหลักการวัดความเร็วในการเดินทางของคลื่นผ่านการไหลของของไหล และมีหลักการพื้นฐานอยู่ 3 ส่วน ที่เกี่ยวข้องกับเซ็นเซอร์ชนิดนี้ นั่นก็คือ Doppler method, Time of flight method และ Frequency difference method โดยตัว Ultrasonic Flow Meters มีใช้กันมานานมากกว่า 20 ปี แล้ว เหมาะสำหรับวัดของไหลที่เป็นทั้ง Liquid และ Gases
หน้าที่เข้าชม | 947,266 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 626,935 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ม.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 17 ต.ค. 2568 |